ก๋วยเตี๋ยวเรืออาซา เลิศรสชาติ สะอาด น่าลอง อีกหนึ่งชิลล์ชวนชิมบนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่!!

ก๋วยเตี๋ยวเรืออาซา เลิศรสชาติ สะอาด น่าลอง อีกหนึ่งชิลล์ชวนชิมบนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่!!

ร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออาซา กำลังจะเป็นอีกหนึ่งในร้านชิลล์ชวนชิม ที่เน้นทั้งเรื่องของรสชาติ ความสะอาด คุณภาพระดับตำนาน และเป็นอีกจุดแวะแบบ “ชิลล์ชวนชิม” แห่งใหม่ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ สร้างบนพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร ลานจอดรถ 10 คัน “อาซา” เกิดจากแนวคิดของคนรุ่นใหม่จากหุ้นส่วนทั้ง 3 ท่าน เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสายพันธุ์ใหม่ ทำสะอาด สด อร่อย มีกำหนดเปิดต้นปีหน้า 2564 ให้ทุกท่านได้ลิ้มรสชาติก๋วยเตี๋ยวเรือสายพันธุ์ใหม่แน่นอน

ดีไซน์ร้านรูปแบบใหม่ทันสมัย

พื้นที่กว้าง นั่งสบาย ไม่แออัด

ภาพ 3D ภายในห้องน้ำ

ร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออาซา update ธ.ค. 63

งานบ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซ.10 (งานเสร็จสมบูรณ์)

งานบ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซ.10 (งานเสร็จสมบูรณ์)

บ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซอย 10

บ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซอย 10

บ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซอย 10

บ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซอย 10

บ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซอย 10

บ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซอย 10

บ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซอย 10

บ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซอย 10

บ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซอย 10

บ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซอย 10บ้านพักอาศัย คสล. 4 ชั้น เอกมัย ซอย 10

งานก่อสร้าง-สถาปัตย์ที่น่าสนใจ ทางเดินลอยฟ้า “Ratchaprasong Walk”

งานก่อสร้าง-สถาปัตย์ที่น่าสนใจ ทางเดินลอยฟ้า “Ratchaprasong Walk”

ทางเดินลอยฟ้าเป็นอีกหนึ่งในนวัตกรรมการก่อสร้างที่น่าสนใจ และมีประโยชน์มาก เพราะสามารถเชื่อมต่อกับอาคารสูงต่างๆ สร้างความสะดวก และการก่อสร้างก็คงต้องเน้นในเรื่องของการรักษาทัศนียภาพในภาพรวมของสถานที่นั้นๆ จึงถือเป็นอีกหนึ่งงานก่อสร้างและงานด้านสถาปัตย์ที่ท้าทาย

ทางเดินลอยฟ้าบริเวณราชประสงค์ หรือ “Ratchaprasong Walk (R – Walk)” ที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) นำมาลงในเพจ ที่เรียกกันว่า “ราชประสงค์โมเดล” จึงเป็นอีกต้นแบบหนึ่งของงานก่อสร้าง และงานด้านสถาปัตยกรรม ที่ลงตัวกับสถานที่

ผู้ว่ากทม.กล่าวในเพจผู้ว่าฯ อัศวิน เกี่ยวกับ Ratchaprasong Walk (R – Walk) ว่า “R – Walk เป็นอีกหนึ่งการมีส่วนร่วมของเครือข่ายภาคเอกชนในการร่วมพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่ มีความทันสมัย และให้พี่น้องประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยว ได้ใช้ประโยชน์เพื่อการสัญจรในย่านการค้าราชประสงค์ ทั้งโรงแรมและศูนย์การค้า ได้สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นทางเดินที่สามารถเดินเชื่อมต่อไปสู่อาคารถึง 18 แห่ง ความยาวรวม 1,150 เมตร และยังเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางต่างๆ ทั้งรถไฟฟ้า เรือโดยสารคลองแสนแสบ รถยนต์ และรถโดยสารสาธารณะต่างๆ ได้อีกด้วย

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กลาง)

ขอขอบคุณสมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์และสมาชิกทุกท่าน ที่สนับสนุนการทำงานของกทม.มาโดยตลอด และครั้งนี้ยังได้มอบทางเดินลอยฟ้า “ราชประสงค์โมเดล” ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อการคมนาคมที่ครบวงจรเพื่อสาธารณประโยชน์ให้แก่ประชาชนในกรุงเทพฯ อีกด้วย

 

เครดิตเนื้อหา –ภาพ เพจผู้ว่าฯ อัศวิน

 

“งานก่อสร้าง”คนไทยอยากให้ต่างด้าวทำได้แบบถูกกม.สำรวจโดยก.แรงงาน

“งานก่อสร้าง”คนไทยอยากให้ต่างด้าวทำได้แบบถูกกม.สำรวจโดยก.แรงงาน

นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อรับฟังความคิดเห็นในการจัดทำกฎหมายลำดับรองเพื่อกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ที่ออกตามมาตรา 7 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 หลังจากที่ผ่านมากรมการจัดหางานได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง โดยในครั้งที่ 1 ได้จัดทำแบบสอบถามความคิดเห็นถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หน่วยงานราชการ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา สภาวิชาชีพ สมาคมหรือสมาพันธ์ ผู้ประกอบการค้า รวมจำนวน 145 หน่วยงาน สรุปผลความคิดเห็น 1. งานที่ควรยกเลิกเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำมากที่สุด ได้แก่ งานก่ออิฐ งานช่างไม้ หรืองานก่อสร้างอื่น 2. ขอให้แก้ไขชื่องานงานหรือลักษณะงานในอาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำเพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ ได้แก่ งานบัญชี งานนายหน้า หรืองานตัวแทน งานวิศวกรรม สาขาวิศวกรรมโยธา งานให้บริการทางกฎหมายหรืออรรถคดี 3. ขอให้เพิ่มงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ เช่น งานที่เกี่ยวกับความเป็นไทย หรือวัฒนธรรมของไทย รวมถึงกรณีคนต่างด้าวเป็นเจ้าของกิจการหรือนายจ้าง เป็นต้น

นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน

ส่วนการสำรวจครั้งที่ 2 ได้จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นการจัดทำกฎหมายลำดับรองเกี่ยวกับการกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานราชการ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สภาวิชาชีพ สมาคมหรือสมาพันธ์ ผู้ประกอบการค้า องค์กรนายจ้างและลูกจ้าง สถาบันการศึกษา องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรและสื่อมวลชน จำนวนทั้งสิ้น 172 คน โดยสรุปผลความคิดเห็นได้ดังนี้ 1. ขอให้ยกเลิกงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ได้แก่ งานกรรมกร งานก่อสร้าง งานก่ออิฐ งานช่างไม้ งานผลิตสินค้าในกิจการอุตสาหกรรม ซึ่งไม่ใช้ทักษะฝีมือขั้นสูง เช่นงานทำรองเท้า งานประดิษฐ์เครื่องแต่งกาย เป็นต้น และ งานขายของหน้าร้าน และควรกำหนดเงื่อนไขเพื่อไม่ให้คนต่างด้าวทำงานดังกล่าวโดยไม่มีนายจ้างหรือเจ้าของกิจการในการทำงานนั้นไว้ด้วย 2. ขอให้กำหนดงานที่ส่งเสริมภูมิปัญญาไทยและเอกลักษณ์ไทย เช่น งานแกะสลักไม้ งานทำเครื่องเขิน งานทำเครื่องดนตรีไทย งานทำเครื่องถม เครื่องทอง เครื่องเงิน หรือเครื่องนาก งานมัคคุเทศก์หรืองานจัดนำเที่ยว เป็นต้น เป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ แต่ควรมีข้อยกเว้นให้คนต่างด้าวสามารถทำได้ ถ้าเป็นลูกจ้างหรือพนักงานในกิจการดังกล่าว และไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับการส่งเสริมภูมิปัญญาไทยและเอกลักษณ์ไทย 3. งานในวิชาชีพ เช่น วิศวกรรม สถาปัตยกรรม บัญชี งานให้บริการทางกฎหมาย หรืออรรถคดี เป็นต้น ยังคงห้ามคนต่างด้าวทำ 4. งานที่ควรห้ามคนต่างด้าวทำเพิ่มเติม ได้แก่ งานนวดไทย งานรักษาความปลอดภัย และงานนายแบบหรือนางแบบที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

จากการพิจารณารับฟังความคิดเห็นที่ผ่านมา กรมการจัดหางานเห็นว่าความคิดเห็นส่วนใหญ่ต้องการให้ยกเลิกงานต่อไปนี้ คือ 1. งานกรรมกร 2. งานกสิกรรม งานเลี้ยงสัตว์ งานป่าไม้ หรืองานประมง 3. งานก่ออิฐ งานช่างไม้และงานก่อสร้างอื่น เป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ซึ่งคนไทยมีการศึกษาสูงขึ้น ทำให้ขาดแคลนแรงงานไทยทำงานดังกล่าว ส่วนงานขายของหน้าร้าน และงานที่ต้องการแรงงานจำนวนมากในภาคการผลิตอุตสาหกรรม เช่น งานทำที่นอน งานทำมีด งานทำรองเท้า งานทำหมวก งานประดิษฐ์เครื่องแต่งกาย เป็นต้น ซึ่งไม่ต้องใช้การฝึกอบรมความรู้และไม่ใช่งานที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยแต่อย่างใด กรมการจัดหางานยังเห็นว่าคนไทยยังสามารถทำงานหรือประกอบอาชีพได้ จึงเห็นว่ายังมีประเด็นที่ควรรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อให้การจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามความในมาตรา 7 เป็นไปอย่างรอบคอบ และสอดคล้องกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำงานของคนต่างด้าวในประเทศไทย

ทั้งนี้ความคิดเห็นจากผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวในวันนี้ จะได้นำไปประกอบการพิจารณากำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นประธานได้พิจารณาก่อนจัดทำเป็นประกาศกระทรวงแรงงานต่อไป

เครดิตภาพและข่าวจาก http://www.siambusinessnews.com