วิธีการดูแลบ้านช่วงหน้าฝน

วิธีการดูแลบ้านช่วงหน้าฝน

วิธีการดูแลบ้านช่วงหน้าฝน

1. ตรวจเช็ครางน้ำฝน อย่าปล่อยให้รางน้ำฝนมีเศษใบไม้หรือขยะอุดตันหมั่นทำความสะอาดรางน้ำฝนเพื่อป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมจากฝนที่ไหลย้อนเข้าตัวบ้าน

2. ตรวจเช็ครอยร้าว รอยรั่วซึม จุดที่มักมีโอกาสเกิดการรั่วซึมหรือรอยร้าวได้ เช่น หลังคา ฝ้า พนัง เพดาน รวมถึงรอยต่อส่วนต่างๆของบ้าน หากพบว่ามีรอยร้าวหรือรั่วซึม ควรรีบติดต่อช่างให้ซ่อมแซมเร็วที่สุด เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมและกัดเซาะโครงสร้างจนเสียหายได้

3. ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ควรทำความสะอาดท่อระบายน้ำเพื่อป้องกันการอุดตัน ที่อาจทำให้เกิดน้ำขังเวลาฝนตกหนักบางทีอาจเกิดการระบายไม่ทัน จัดการกับเศษใบไม้ เศษดินทิ้ง ขยะต่างๆ กิ่งไม้บริเวณรอบบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ไหลลงไปอุดตันที่ท่อระบายน้ำ

4. ตัดแต่งกิ่งไม้ ในช่วงหน้าฝนอาจมีลมพายุที่ทำให้ต้นไม้หักโค่น จนเกิดอันตรายได้ และบ้านที่มีกิ่งไม้ใหญ่ใกล้ตัวบ้าน ควรตัดแต่งกิ่งไม้เพื่อป้องกันไม่ให้โดนตัวบ้าน และหลังคาซึ่งอาจทำให้เกิดรอยรั่วหรือแตกได้

5. เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ เฟอร์นิเจอร์บางชนิดได้ถูกออกแบบให้วางไว้ในโซน outdoor ได้แต่หากตากฝนบ่อยครั้งอาจจะทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้นดังนั้นเพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานให้นานมากขึ้นในช่วงหน้าฝนก็ควรที่จะย้ายเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นมาอยู่ในที่ที่โดนฝนน้อยที่สุดหรืออาจจะนำผ้าใบมาคลุมปิดไว้ได้

6. ทำความสะอาดพื้น เนื่องจากหน้าฝนอาจจะมีพื้นที่ที่เกิดน้ำขัง และหากทิ้งไว้นานจะเกิดตะไคร่จับคราบติดแน่นและจะขัดออกยาก เราจึงควรทำความสะอาด ขัดและล้างพื้นอยู่บ่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากการลื่นล้ม และยังช่วยให้บ้านดูไม่หมองอีกด้วย

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านอบรม”การตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้าน”

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านอบรม”การตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้าน”

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเตรียมความพร้อมให้กับสมาชิกของสมาคมฯ จัดอบรมสัมมนาการตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้าน (Digital Marketing for Home Builder & Materials) โดย ดร. เสรี วงษ์มณฑา เพื่อให้สมาชิกพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน และ นายจิระวัฒน์ มาลีรักษ์ อุปนายกฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนายทะเบียน พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ จัดงานสัมมนาเชิงวิชาการเพื่อสร้างองค์ความรู้และแนวทางการปรับตัวของธุรกิจให้กับสมาชิกของสมาคม ภายใต้หัวข้อ “การตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้าน (Digital Marketing for Home Builder & Materials)” โดยในงานนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารการตลาด มาเป็นวิทยากร ตลอด 1 วัน ของงานสัมมนา

โดยภายในงานสัมมนา ดร. เสรี วงษ์มณฑา ได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการทำการตลาดดิจิทัลในปัจจุบัน และเทคโนโลยีที่เข้ามาบทบาทสำคัญต่อการทำการตลาด ซึ่งไม่ว่าจะเป็นในธุรกิจไหนล้วนได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน หากไม่รู้จักปรับตัว หรือการอาศัยยุทธศาสตร์ของการตลาดดิจิทัลด้านต่างๆ เข้ามาใช้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การเล่าเรื่อง, การใช้ Social Media อย่างถูกวิธี, การพัฒนาธุรกิจให้เป็นดิจิทัล, การสร้างตราสินค้าด้วยการตลาดดิจิทัล และการเข้าใจการตลาดดิจิทัลให้ลึกซึ้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหัวใจหลักของธุรกิจที่จำเป็นต่อการปรับตัวสู่การตลาดแบบดิจิทัล

“งานสัมมนาครั้งนี้ ทางสมาคมฯ ได้เล็งเห็นแล้วว่าการตลาดดิจิทัลนั้น เป็นสิ่งที่ทุกบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ล้วนให้ความสนใจและต้องการให้พนักงานของตนเองได้รู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างแนวคิดต่อการตลาดในรูปแบบใหม่ๆ พร้อมพัฒนาตนเอง ทีมงาน และคนในองค์กร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นไปตามเป้าหมายขององค์กรในยุคปัจุบัน จึงเป็นที่มาของการสัมมนาหัวข้อดังกล่าวในวันนี้” นายวรวุฒิ กล่าว

 

งามสัมมนาให้กับสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน จัดขึ้นเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมีหัวข้อการบรรยายและวิทยากรมากความรู้ ความสามารถในแต่ละแขนงแตกต่างกันออกไปให้เกียรติมาบรรยายและทำกิจกรรม โดยสมาชิกในสมาคมสามารถเข้าร่วมงาน

 

ต้นไม้ฟอกอากาศ ปลูกง่ายแถมดีต่อสุขภาพ

ต้นไม้ฟอกอากาศ ปลูกง่ายแถมดีต่อสุขภาพ

ในช่วงของโรคระบาด Covid-19 สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจมากขึ้น เพราะได้มีเวลาอยู่บ้านกันมากขึ้น คือการปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะต้นไม้ฟอกอากาศประโยชน์ของต้นไม้ที่ทราบกันนอกจากจะให้ความร่มรื่น ความสวยงามและดูสบายตาแล้ว ต้นไม้บางสายพันธุ์มีคุณสมบัติในการฟอกอากาศ ดูดสารพิษ ลดการกระตุ้นการเกิดภูมิแพ้ จากหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ยังวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเรา วันนี้แอดมินขอตามกระแส นำต้นไม้ฟอกอากาศ ที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในบ้านและพื้นที่รอบๆ บ้าน แถมดีต่อสุขภาพมาฝากกันค่ะ

พลูด่าง

เป็ปเปอร์โรเมีย

เขียวหมื่นปี

ยางอินเดีย

มอนสเตอร่า

ไทรใบสัก

ลิ้นมังกร

นอกจากต้นไม้ที่แอดมินแนะนำไปนั้น ก็ยังมีต้นไม้อีกหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้เล็กหรือต้นไม้ใหญ่ใดใดก็ล้วนแต่จะมีคุณสมบัติดูดซับก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซด์และคายออกซิเจน รวมถึงยังช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

กังวลปัญหาสงครามมะกัน-อิหร่านผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยความเชื่อมั่นหด

กังวลปัญหาสงครามมะกัน-อิหร่านผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยความเชื่อมั่นหด

ธอส.เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑลหดตัว มาจากความกังวลสงครามสหรัฐ -อิหร่าน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยมาจากผลกระทบค่าเงินบาท รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย กลัวต้นทุนปรับเพิ่มสูงขึ้น

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เปิดเผยผลสำรวจ แบบสอบถาม “ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล” โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) ไตรมาส 4 ปี 2562 มีค่าเท่ากับ 44.4 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 48.2 จุด สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลใจของผู้ประกอบการฯ ที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัวและปัญหาภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งมาตรการ LTV สถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งตัว สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน สงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน ซึ่งมีผลต่อต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นในขณะที่กำลังซื้อลดลง

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC)

ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 44.6 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 50.7 จุด โดยความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies ลดลงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 อีกครั้ง หลังจากที่มีค่าดัชนีต่ำกว่า 50 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2562 ส่วนผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 44.1 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ระดับ 44.5 จุด ซึ่งต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการทั้ง 2 กลุ่มมีความเชื่อมั่นลดลงและมีมุมมองในเชิงลบต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาวะปัจจุบัน

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) ในไตรมาส 4 ปี 2562 มีค่าเท่ากับ 55.7 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.8 จุด แต่ยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 จุด สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความคาดหวังว่า มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประกาศใช้ในเดือน พ.ย. 62 จะช่วยให้มีการโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้ได้มากขึ้น รวมทั้งคาดหวังว่าภาวะเศรษฐกิจจะมีการปรับตัวดีขึ้นตามการคาดการณ์ของหน่วยงานต่างๆ โดยผู้ประกอบการฯ กลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 59.2 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 60.7 จุด ในขณะที่ผู้ประกอบการฯ กลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 50.4 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.5 จุด ซึ่งค่าดัชนีของทั้งสองกลุ่มยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 จุด

จับตาโปรฯกระตุ้นอสังหาปีใหม่63รัฐบาลเปิด 2 นโยบายสำหรับคนอยากมีบ้าน

จับตาโปรฯกระตุ้นอสังหาปีใหม่63รัฐบาลเปิด 2 นโยบายสำหรับคนอยากมีบ้าน

2 นโยบายน่าสนใจ ของขวัญปีใหม่ประชาชน หวังกระตุ้นภาคอสังหาฯ เอาใจคนอยากมีบ้าน – สร้างบ้าน

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผ่านเพจ “ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ถึง 10 นโยบายรัฐบาลของขวัญปีใหม่ 2563 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

สำหรับ 10 นโยบายประกอบด้วย 1.ลดราคาสินค้า 30-70% (กระทรวงพาณิชย์) 2.โครงการบ้านดีมีดาวน์ 3.ลดราคาค่าโดยสารสาธารณะและขึ้นทางด่วนฟรี (เฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่) 4.แจกทองทุกสัปดาห์สำหรับโครงการชิมช้อปใช้ 5.สินค้า (อุตสาหกรรม) ราคาโรงงาน 6.ช่วยค่าเก็บเกี่ยว 10,000 บาท / ครอบครัว 7.คืนเงิน 1,000 บาทสำหรับลูกค้าธอส. 8.พันธบัตรออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง 9.ตรึงค่าไฟฟ้า (เอฟทีเอ) และ 10.โครงการบ้านในฝันรับปีใหม่

ขณะที่สองนโยบายซึ่งเกี่ยวข้องกับภาคอสังหาฯโดยตรงและเชื่อว่าจะสามารถสร้างกำลังซื้อ และกระตุ้นให้เกิดความสนใจโดยเฉพาะคนที่กำลังอยากมีบ้าน ทั้งโครงการ บ้านดีมีดาวน์ ที่ยังเปิดให้ลงทะเบียนอยู่ในขณะนี้ (รายละเอียดดูได้จากภาพ) และ โครงการบ้านในฝันรับปีใหม่ ซึ่งใครกำลังสนใจอยากมีบ้านหรือสร้างบ้านของตัวเอง เป็นที่จับตา และหลายคนกำลังให้ความสนใจอย่างสูง โดยเฉพาะการหาซื้อบ้าน และการสร้างบ้านในที่ดินของตัวเอง

ที่มา สำนักข่าว SBN (https://www.siambusinessnews.com/22734)

 

 

“สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาท” เริ่ม 1 ธ.ค.นี้ จาก ธ.ออมสิน

“สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาท” เริ่ม 1 ธ.ค.นี้ จาก ธ.ออมสิน

ทั้งสร้าง – ซื้อ – ซ่อมแซม / ต่อเติม-รีไฟแนนซ์ ผ่อนนานสูงสุดถึง 40 ปี รายละเอียดอื่นๆ เป็นยังไง ไปลองเช็คได้จากธ.ออมสิน เริ่ม 1 ธ.ค.62

ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เพื่อให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมีสถาบันการเงินรองรับความต้องการสินเชื่อที่ช่วยให้การกู้เงินเป็นเรื่องง่าย ธนาคารฯ จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ สินเชื่อบ้าน คือ สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สอดคล้องกับความต้องการมีที่อยู่อาศัยในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะช่วงปลายปี ทั้งซื้ออยู่อาศัยใหม่ ปลูกสร้างบ้านบนที่ดิน ต่อเติม ซ่อมแซม หรือต้องการรีไฟแนนซ์ โดยได้เตรียมวงเงินสินเชื่อไว้ 25,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถแจ้งความจำนงได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไปสินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาท ให้กู้ตามความสามารถชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละราย โดยไม่จำกัดวงเงินกู้สูงสุด คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 0.010% ปีที่ 2-3 เท่ากับ 4.350% ต่อปี ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-0.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารฯ ปัจจุบัน = 6.745% ต่อปี) คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.903%

CR https://www.siambusinessnews.com/22439

โดยวงเงินกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 20 ปี ในปีแรกคิดเป็นเงินงวดผ่อนชำระ 10 บาทต่อเดือน ปีที่ 2-3 ผ่อนชำระ 3,700 บาทต่อเดือน และปีที่ 4 เป็นต้นไป ผ่อนชำระ 8,300 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังได้รับการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อที่อยู่อาศัยตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งให้ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2.00% เหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนองจาก 1.00% เหลือ 0.01% อีกด้วย“เรียกได้ว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อการมีบ้านก็ได้รับการปรับลดลงแล้ว

ขณะเดียวกันธนาคารฯ ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้สามารถผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 40 ปี โดยลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระได้ยาวนานขึ้น เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ให้มากที่สุด ขณะที่สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำฯ ได้คิดคำนวณเงินงวดให้ผ่อนสบายๆ ในช่วงภาวะที่เศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อให้แบ่งเงินนำไปเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงเก็บออมไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้”ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารออมสิน โทร.1115 หรือตามสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคาร ได้แก่ Website : www.gsb.or.th, Facebook : GSB Society, Official Line : GSB ธนาคารออมสิน

ภาพ – ข้อมูล สำนักข่าว SBN https://www.siambusinessnews.com/