


สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านอบรม”การตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้าน”
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเตรียมความพร้อมให้กับสมาชิกของสมาคมฯ จัดอบรมสัมมนาการตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้าน (Digital Marketing for Home Builder & Materials) โดย ดร. เสรี วงษ์มณฑา เพื่อให้สมาชิกพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน และ นายจิระวัฒน์ มาลีรักษ์ อุปนายกฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนายทะเบียน พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ จัดงานสัมมนาเชิงวิชาการเพื่อสร้างองค์ความรู้และแนวทางการปรับตัวของธุรกิจให้กับสมาชิกของสมาคม ภายใต้หัวข้อ “การตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้าน (Digital Marketing for Home Builder & Materials)” โดยในงานนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารการตลาด มาเป็นวิทยากร ตลอด 1 วัน ของงานสัมมนา
โดยภายในงานสัมมนา ดร. เสรี วงษ์มณฑา ได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการทำการตลาดดิจิทัลในปัจจุบัน และเทคโนโลยีที่เข้ามาบทบาทสำคัญต่อการทำการตลาด ซึ่งไม่ว่าจะเป็นในธุรกิจไหนล้วนได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน หากไม่รู้จักปรับตัว หรือการอาศัยยุทธศาสตร์ของการตลาดดิจิทัลด้านต่างๆ เข้ามาใช้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การเล่าเรื่อง, การใช้ Social Media อย่างถูกวิธี, การพัฒนาธุรกิจให้เป็นดิจิทัล, การสร้างตราสินค้าด้วยการตลาดดิจิทัล และการเข้าใจการตลาดดิจิทัลให้ลึกซึ้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหัวใจหลักของธุรกิจที่จำเป็นต่อการปรับตัวสู่การตลาดแบบดิจิทัล
“งานสัมมนาครั้งนี้ ทางสมาคมฯ ได้เล็งเห็นแล้วว่าการตลาดดิจิทัลนั้น เป็นสิ่งที่ทุกบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ล้วนให้ความสนใจและต้องการให้พนักงานของตนเองได้รู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างแนวคิดต่อการตลาดในรูปแบบใหม่ๆ พร้อมพัฒนาตนเอง ทีมงาน และคนในองค์กร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นไปตามเป้าหมายขององค์กรในยุคปัจุบัน จึงเป็นที่มาของการสัมมนาหัวข้อดังกล่าวในวันนี้” นายวรวุฒิ กล่าว
งามสัมมนาให้กับสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน จัดขึ้นเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมีหัวข้อการบรรยายและวิทยากรมากความรู้ ความสามารถในแต่ละแขนงแตกต่างกันออกไปให้เกียรติมาบรรยายและทำกิจกรรม โดยสมาชิกในสมาคมสามารถเข้าร่วมงาน

ต้นไม้ฟอกอากาศ ปลูกง่ายแถมดีต่อสุขภาพ
ในช่วงของโรคระบาด Covid-19 สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจมากขึ้น เพราะได้มีเวลาอยู่บ้านกันมากขึ้น คือการปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะ “ต้นไม้ฟอกอากาศ” ประโยชน์ของต้นไม้ที่ทราบกันนอกจากจะให้ความร่มรื่น ความสวยงามและดูสบายตาแล้ว ต้นไม้บางสายพันธุ์มีคุณสมบัติในการฟอกอากาศ ดูดสารพิษ ลดการกระตุ้นการเกิดภูมิแพ้ จากหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ยังวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเรา วันนี้แอดมินขอตามกระแส นำต้นไม้ฟอกอากาศ ที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในบ้านและพื้นที่รอบๆ บ้าน แถมดีต่อสุขภาพมาฝากกันค่ะ
พลูด่าง
เป็ปเปอร์โรเมีย
เขียวหมื่นปี
ยางอินเดีย
มอนสเตอร่า
ไทรใบสัก
ลิ้นมังกร
นอกจากต้นไม้ที่แอดมินแนะนำไปนั้น ก็ยังมีต้นไม้อีกหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้เล็กหรือต้นไม้ใหญ่ใดใดก็ล้วนแต่จะมีคุณสมบัติดูดซับก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซด์และคายออกซิเจน รวมถึงยังช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

กังวลปัญหาสงครามมะกัน-อิหร่านผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยความเชื่อมั่นหด
ธอส.เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑลหดตัว มาจากความกังวลสงครามสหรัฐ -อิหร่าน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยมาจากผลกระทบค่าเงินบาท รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย กลัวต้นทุนปรับเพิ่มสูงขึ้น
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เปิดเผยผลสำรวจ แบบสอบถาม “ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล” โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) ไตรมาส 4 ปี 2562 มีค่าเท่ากับ 44.4 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 48.2 จุด สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลใจของผู้ประกอบการฯ ที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัวและปัญหาภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งมาตรการ LTV สถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งตัว สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน สงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน ซึ่งมีผลต่อต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นในขณะที่กำลังซื้อลดลง

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC)
ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 44.6 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 50.7 จุด โดยความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies ลดลงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 อีกครั้ง หลังจากที่มีค่าดัชนีต่ำกว่า 50 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2562 ส่วนผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 44.1 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ระดับ 44.5 จุด ซึ่งต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการทั้ง 2 กลุ่มมีความเชื่อมั่นลดลงและมีมุมมองในเชิงลบต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาวะปัจจุบัน
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) ในไตรมาส 4 ปี 2562 มีค่าเท่ากับ 55.7 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.8 จุด แต่ยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 จุด สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความคาดหวังว่า มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประกาศใช้ในเดือน พ.ย. 62 จะช่วยให้มีการโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้ได้มากขึ้น รวมทั้งคาดหวังว่าภาวะเศรษฐกิจจะมีการปรับตัวดีขึ้นตามการคาดการณ์ของหน่วยงานต่างๆ โดยผู้ประกอบการฯ กลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 59.2 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 60.7 จุด ในขณะที่ผู้ประกอบการฯ กลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 50.4 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.5 จุด ซึ่งค่าดัชนีของทั้งสองกลุ่มยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 จุด

จับตาโปรฯกระตุ้นอสังหาปีใหม่63รัฐบาลเปิด 2 นโยบายสำหรับคนอยากมีบ้าน
2 นโยบายน่าสนใจ ของขวัญปีใหม่ประชาชน หวังกระตุ้นภาคอสังหาฯ เอาใจคนอยากมีบ้าน – สร้างบ้าน
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผ่านเพจ “ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ถึง 10 นโยบายรัฐบาลของขวัญปีใหม่ 2563 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
สำหรับ 10 นโยบายประกอบด้วย 1.ลดราคาสินค้า 30-70% (กระทรวงพาณิชย์) 2.โครงการบ้านดีมีดาวน์ 3.ลดราคาค่าโดยสารสาธารณะและขึ้นทางด่วนฟรี (เฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่) 4.แจกทองทุกสัปดาห์สำหรับโครงการชิมช้อปใช้ 5.สินค้า (อุตสาหกรรม) ราคาโรงงาน 6.ช่วยค่าเก็บเกี่ยว 10,000 บาท / ครอบครัว 7.คืนเงิน 1,000 บาทสำหรับลูกค้าธอส. 8.พันธบัตรออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง 9.ตรึงค่าไฟฟ้า (เอฟทีเอ) และ 10.โครงการบ้านในฝันรับปีใหม่
ขณะที่สองนโยบายซึ่งเกี่ยวข้องกับภาคอสังหาฯโดยตรงและเชื่อว่าจะสามารถสร้างกำลังซื้อ และกระตุ้นให้เกิดความสนใจโดยเฉพาะคนที่กำลังอยากมีบ้าน ทั้งโครงการ บ้านดีมีดาวน์ ที่ยังเปิดให้ลงทะเบียนอยู่ในขณะนี้ (รายละเอียดดูได้จากภาพ) และ โครงการบ้านในฝันรับปีใหม่ ซึ่งใครกำลังสนใจอยากมีบ้านหรือสร้างบ้านของตัวเอง เป็นที่จับตา และหลายคนกำลังให้ความสนใจอย่างสูง โดยเฉพาะการหาซื้อบ้าน และการสร้างบ้านในที่ดินของตัวเอง
ที่มา สำนักข่าว SBN (https://www.siambusinessnews.com/22734)

“สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาท” เริ่ม 1 ธ.ค.นี้ จาก ธ.ออมสิน
ทั้งสร้าง – ซื้อ – ซ่อมแซม / ต่อเติม-รีไฟแนนซ์ ผ่อนนานสูงสุดถึง 40 ปี รายละเอียดอื่นๆ เป็นยังไง ไปลองเช็คได้จากธ.ออมสิน เริ่ม 1 ธ.ค.62
ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เพื่อให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมีสถาบันการเงินรองรับความต้องการสินเชื่อที่ช่วยให้การกู้เงินเป็นเรื่องง่าย ธนาคารฯ จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ สินเชื่อบ้าน คือ สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สอดคล้องกับความต้องการมีที่อยู่อาศัยในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะช่วงปลายปี ทั้งซื้ออยู่อาศัยใหม่ ปลูกสร้างบ้านบนที่ดิน ต่อเติม ซ่อมแซม หรือต้องการรีไฟแนนซ์ โดยได้เตรียมวงเงินสินเชื่อไว้ 25,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถแจ้งความจำนงได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไปสินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาท ให้กู้ตามความสามารถชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละราย โดยไม่จำกัดวงเงินกู้สูงสุด คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 0.010% ปีที่ 2-3 เท่ากับ 4.350% ต่อปี ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-0.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารฯ ปัจจุบัน = 6.745% ต่อปี) คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.903%

CR https://www.siambusinessnews.com/22439
โดยวงเงินกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 20 ปี ในปีแรกคิดเป็นเงินงวดผ่อนชำระ 10 บาทต่อเดือน ปีที่ 2-3 ผ่อนชำระ 3,700 บาทต่อเดือน และปีที่ 4 เป็นต้นไป ผ่อนชำระ 8,300 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังได้รับการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อที่อยู่อาศัยตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งให้ลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2.00% เหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนองจาก 1.00% เหลือ 0.01% อีกด้วย“เรียกได้ว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อการมีบ้านก็ได้รับการปรับลดลงแล้ว
ขณะเดียวกันธนาคารฯ ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้สามารถผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 40 ปี โดยลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระได้ยาวนานขึ้น เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ให้มากที่สุด ขณะที่สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำฯ ได้คิดคำนวณเงินงวดให้ผ่อนสบายๆ ในช่วงภาวะที่เศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อให้แบ่งเงินนำไปเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงเก็บออมไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้”ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารออมสิน โทร.1115 หรือตามสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคาร ได้แก่ Website : www.gsb.or.th, Facebook : GSB Society, Official Line : GSB ธนาคารออมสิน
ภาพ – ข้อมูล สำนักข่าว SBN https://www.siambusinessnews.com/