การเลือกซื้อคอนโดหรือบ้านพักอาศัยที่ว่ายากนั้น ยังมีอีกอย่างที่ยากก็คือ การตกแต่งคอนโดหรือห้องพักของเราอย่างไร โดยที่ไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อราคาขาย หากในอนาคตมันถึงเวลาที่เราต้องการขาย
เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ทุกแบบนั้น จะต้องมีการประเมินราคาขายก่อนที่จะทำการขายเป็นมือสองหรือมือต่อๆไป ซึ่งหลักในการประเมินก็จะต้องพิจารณาตามความเป็นจริงจากสภาพทรัพสินในปัจจุบัน
สำหรับคอนโดมิเนียมหรือห้องชุด สำนักงานที่ดินจะมีการประเมินราคาใหม่ทุกๆ 4 ปี แต่เนื่องจากคอนโดมิเนียมมีการเติบโตและขยายปริมาณมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ในระยะเวลา 4 ปีนั้น เกิดการคลาดเคลื่อนจากราคาตามความเป็นจริง ดังนั้น กรมธนารักษ์ จึงเป็นฝ่ายที่จะต้องเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการประเมินราคาคอนโดของสำนักประเมินราคาทรัพย์สิน ซึ่งมีการคำนวณราคาเหมือนกับที่ดินคือแบบรายแปลง เพื่อให้ราคาการพิจารณานั้นถูกต้องและมีความเป็นธรรมมากที่สุด โดยจะทำการสำรวจราคาซื้อขายดังกล่าวตั้งแต่ต้น รวมทั้งยังสำรวจสภาพพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย
โดยห้องชุดคอนโดมิเนียมที่มีการตกแต่งเจาะผนัง หรือปรับแก้โครงสร้างในส่วนใหญ่ จะทำให้ส่งผลกระทบต่อราคาขาย เนื่องจากผลการสำรวจวิเคราะห์ออกมาว่า การกระทำดังกล่าวนี้ ถือเป็นการส่งผลเสียต่อโครงสร้างของอาคารในอนาคต เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับราคาซื้อขายกันในตลาด แต่สำหรับคอนโดใหม่ที่ภายในห้องนั้นได้มีการตกแต่งแล้ว เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับห้องเปล่าก็จะได้ราคาขายหรือราคาประเมินที่สูงกว่าห้องเปล่าที่่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์
ดังนั้นการเจาะผนัง หรือตกแต่งด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อิน จึงควรได้รับการติดตั้งและดูแลเป็นอย่างดีมากกว่าเฟอร์นิเจอร์ตั้งพื้นทั่วไป เนื่องจากอนาคตใน 10 ปี ข้างหน้า สิ่งเหล่านี้ค่อนข้างทรุดโทรมเร็วกว่า อีกทั้งยังต้องมีการดูแลทะนุบำรุงยุ่งยากกว่าเฟอร์นิเจอร์แบบทั่วไป
ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป เป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการก่อสร้างปัจจุบันนี้ ซึ่งมีทั้งข้อดีและก็มีข้อเสียรวมกัน
สำหรับการเจาะพื้นผนังห้องของคอนโอบางคนอาจจะมองว่าไม่ได้ส่งผลเสียต่อโครงสร้างตัวอาคารสักเท่าไร ในตอนนี้อาจจะใช่ แต่ในอนาคต 10 หรือ 20 ปี ข้างหน้านั้นใครจะรู้…??
ที่มา www.mymomsaz.com